วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555

แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทบุคคล

ปราชญ์ชาวบ้าน    

แก่นของหลักคิด และวิธีการ ที่ปราชญ์ชาวบ้านเสนอ ไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือ ระดับชุมชนเบื้องต้นสุด เริ่มจาก 

1. การรู้จักตัวเองให้ได้   นั่นคือ ต้องรู้ว่า ปัญหาที่เราเผชิญอยู่เกิดจากอะไร ใครทำให้เกิดปัญหา เราสร้างปัญหาเอง หรือ คนอื่นสร้างปัญหา เช่น เพราะนโยบายของรัฐบาล หรือ เพราะใคร

2. ใช้ปัญญาทางานแทนเงินตรา  เน้นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ พัฒนาคนให้เกิดปัญญา มีความคิดที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง การระดมทุน ระดมทรัพยากรมาทีหลัง มีความเชื่อมั่นว่าถ้ามนุษย์เกิดปัญญา จะสามารถแก้ปัญหาได้ การทำงานร่วมกัน จึงต้องตระหนักเสมอว่า เป็นกระบวนการในการสร้างคนขึ้นมา

3. สร้างการมีส่วนร่วมแทนอานาจสั่งการ  ใช้วิธีการทำงานโดยชักชวนคนเข้าร่วมจากกลุ่มเล็กๆ ก่อน ทำให้เกิดผลงานเห็นชัดเจน มีตัวอย่างรูปธรรมพิสูจน์ได้ จนเกิดการยอมรับว่า สามารถทำได้จริง จึงขยายผลไปสู่วงกว้าง ชักชวน สร้างแนวร่วมให้คนเข้าร่วม กระบวนการมากขึ้นเรื่อยๆ

4. ชุมชนต้องมีบทบาทหลัก  ไม่ใช่หน่วยงานราชการ งานพัฒนาชุมชนที่ผ่านมา เป็นงานของหน่วยงานราชการเป็นหลัก ชุมชนเป็นเพียงผู้เข้าร่วม ถูกขอร้องให้ช่วยทาเพื่อให้เกิดผลงาน ที่หน่วยงานราชการจะได้นาไปรายงานตามลำดับชั้น จนถึงระดับกระทรวง เป้าหมายของราชการ จึงไม่ได้อยู่ที่จะเกิดผลต่อการพัฒนาชาวบ้านแต่อย่างใด แต่อยู่ที่จะมีอะไรไปรายงานเป็นผลงานของหน่วยงานราชการ

5. ทำตัวเป็นแบบอย่าง คนยอมรับนับถือ  วิถีชีวิตของปราชญ์ชาวบ้าน เป็นวิถีที่เรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ ใช้ชีวิตแบบสมถะ มีความซื่อสัตย์ เป็นคนมีคุณธรรม ยึดหลักพุทธรรม ไม่มีปัญหาทางด้านการเงิน ทุกคนให้การยอมรับนับถือ ใช้ชีวิตอย่างคนที่พออยู่ พอกิน ไม่ทะยานอยากไปตามกาเลสฝ่ายต่า ใช้ชีวิตแบบมีสติ ปฏิเสธสังคมบริโภคนิยมวัตถุ แต่เน้นมิติทางจิตใจ เป็นกัลยาณมิตร อยู่ร่วมกับธรรมชาติ




ผาย สร้อยสระกลาง

          พ่อผาย สร้อยสระกลาง แห่งบ้านสระคูณ ต.โคกล่าม อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ปัจจุบันมีวัย 80 ปี ตำแหน่งเกษตรกรดีเด่น สาขาปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ผู้เป็นแบบอย่างการทำเกษตรกรรมผสมผสาน ที่นำเอาประสบการณ์อันยาวนานมาขยายแนวคิดจากผืนไร่นาสู่หมู่บ้าน จากหมู่บ้านสู่องค์กรชุมชนต่างๆ สู่การรวมกลุ่มเป็นเครือข่ายขยายผลในวงกว้าง ด้วยการเริ่มต้นของพ่อผาย บ้านสระคูณเกือบทุกครอบครัวทำเกษตรผสมผสาน ขุดสระเลี้ยงปลา ปลูกผลไม้ ปลูกผัก ทำนาข้าว เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ในที่นา ทำให้ชาวบ้านลดค่าใช้จ่าย และมีรายได้เสริมอย่างต่อเนื่อง 
          การทำการเกษตรตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อสาย ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่มากมาย พ่อผายทำการเกษตรประณีตในพื้นที่ 1 ไร่ โดยมิใช่เพียงรูปแบบที่เพียงจดจำหรือนำไปทำตาม  แต่สิ่งทีสำคัญมากกว่านั้น คือ แนวคิดในการทำการเกษตร  แนวคิดในการใช้ชีวิต  ซึ่งหากผู้ปฏิบัติยึดเพียงรูปแบบการทำเกษตรแบบประณีตในแปลง  การพึ่งตนเองอย่างยั่งยืนก็อาจไม่ประสบผล  เกษตรประณีตจะสมบูรณ์ต้องประกอบด้วยหลักคิดในการทำการเกษตรผสานกับหลักคิด ที่ต้องมีในตัวผู้ปฏิบัติ  ความสำคัญในการพัฒนาคนจึงมาก่อน  เกษตรประณีตเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจพอเพียง  เกษตรพอเพียงตามแนวพระราชดำริขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  เกษตรประณีตเป็นการทำให้คนลองใช้ความสามารถกับพื้นที่เล็กๆ ก่อน  เมื่อมีความชำนาญแล้วก็ขยายไปสู่พื้นที่ที่มากกว่า 1 ไร่  มีการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง  ลดรายจ่าย  เพิ่มรายได้  เมื่อทำไปก็จะพึ่งตนเองได้  ไม่ยากจน  และสามารถปลดภาระหนี้สินได้




ชัยพร พรหมพันธุ์

          นายชัยพร  พรหมพันธุ์ ชาวนาวัย 48 อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ที่ 1 ตำบลบางใหญ่ อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อำเภอบางปลาม้า สมรสกับคุณวิมล พรหมพันธุ์ บุตรมี 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน รักอาชีพการทำนาเป็นชีวิตจิตใจ ความมั่งคั่งมั่นคงทั้งปวง ได้มาจากการทำนาโดยสุจริต ไม่เอาเปรียบดินไม่เอาเปรียบน้ำ คิดซื่อ ขยันขันแข็ง และมีสองมือหยาบกร้านจากการทำงานหนักเช่นชาวนาทั่ว ๆ ไป โดยชาวนาโดยส่วนใหญ่คู่กับตำนานยิ่งทำยิ่งจน ทำนาจนเสียนา แต่สำหรับเขา ทำนาบนที่ดินมรดกพ่อ 20 กว่าไร่ กับอีกส่วนหนึ่งเขาเช่าเพิ่มเติม ทำไปทำมาก็ซื้อที่นาเช่ามาเป็นของตัวเอง ปาเข้าไป 100 กว่าไร่ แถมซื้อที่นามาโดยไม่เคยกู้แบงก์ ไม่เคยเป็นลูกค้าขี้ข้าใคร 




แหล่งที่มา
http://www.youtube.com/watch?v=QkWUyzJthnY&feature=player_embedded
http://www.youtube.com/watch?v=tOUZuFM2yhU&feature=player_embedded
http://www.oknation.net/blog/panuwat838084/2010/05/13/entry-1
http://hilight.kapook.com/view/42576

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น